แม่สาวรัสเซียถึงเกาะเต่า เชื่อลูกอาจสูญหายจากการดำน้ำ

แม่สาวรัสเซียถึงเกาะเต่า
แม่สาวรัสเซียถึงเกาะเต่า เชื่อลูกอาจสูญหายจากการดำน้ำ ให้ ตร.เก็บดีเอ็นเอ ไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่นักประดาน้ำ ยังดำค้นหาในจุดที่ยังไม่ได้สำรวจ ด้าน ตร.เกาะพะงัน สั่งนำภาพถ่ายติดประกาศตามแหล่งชุมชน หวังได้เบาะแสเพิ่ม ความคืบหน้ากรณี น.ส.วาเลนตินา โนวาชฮาโยโนวา นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียวัย 23 ปี ที่สูญหายอย่างไร้ร่องรอยในพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.หลังจากเข้าพักที่โรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ตำรวจต้องระดมกำลังหลายหน่วยงานออกตระเวนค้นหาทั้งบนบกและในทะเลต่อเนื่องนับสัปดาห์ จนล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มี.ค.ทีมค้นหาใต้น้ำพบเศษชิ้นเนื้อ และกระดูก ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ รวมทั้งเสื้อยืดแบบเสื้อกล้ามสีเขียวเข้ม 1 ตัว หน้ากากดำน้ำสีดำ 1 อัน ได้บริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่า ห่างจากชายฝั่งประมาณ 400 เมตร ในระดับความลึกของน้ำประมาณ 4-5 เมตร จึงเก็บวัตถุพยานทั้งหมดขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งผลการตรวจสอบของสถาบันนิติเวช ระบุว่าชิ้นเนื้อ และกระดูกดังกล่าวไม่ใช่ของมนุษย์ ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ผกก.ทุกสถานีตำรวจใน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งของ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันหาเบาะแส โดย พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ.สภ.ย่อยเกาะเต่า รายงานต่อที่ประชุม ว่าล่าสุดแม่และญาติของ น.ส.วาเลนตินา ได้เดินทางมายังเกาะเต่าแล้ว ตำรวจพาไปพักที่โรงแรมแบนไดวิ่ง รวมทั้งสอบปากคำแม่ของ น.ส.วาเลนตินา ได้ความว่า น.ส.วาเลนตินา เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี และได้เรียนดำน้ำที่ประเทศรัสเซีย โดยเรียนมา 4 ปี แต่จะเรียนดำน้ำในสระว่ายน้ำเท่านั้น ยังไม่เคยออกไปดำน้ำในทะเลจริงๆ ซึ่งแม่กับ น.ส.วาเลนตินา จะแยกกันอยู่คนละบ้าน เพิ่งมาทราบข่าวการสูญหายจากเพื่อนของ น.ส.วาเลนตินา ที่ประเทศรัสเซีย พ.ต.ท.โชคชัย กล่าวต่อว่า แม่ของ น.ส.วาเลนตินา ยังให้การด้วยว่า ลูกสาวเป็นคนรักธรรมชาติ ชอบดำน้ำ เดินป่า ซึ่งทางแม่ของ น.ส.วาเลนตินา ยังเชื่อว่าลูกสาวน่าจะมาดำน้ำ และเชื่อว่าอาจจะสูญหายจากการดำน้ำ ซึ่งทางตำรวจได้เก็บตัวอย่าง DNA จากแม่ของผู้สูญหายไว้แล้ว รวมทั้งนำสิ่งของที่เก็บได้ในห้องพักทั้งหมด มอบให้กับแม่ของ น.ส.วาเลนตินา กลับไป แต่ตัวแม่ของ น.ส.วาเลนตินา จะยังพักอยู่ในเกาะเต่า เพื่อรอผลการค้นหา โดยแม่ของ น.ส.วาเลนตินา พอใจการทำงานของตำรวจที่พยายามออกติดตามค้นหาอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำสิ่งของที่พบในทะเลทั้งหมด มาให้แม่ของสาวรัสเซียตรวจสอบ ว่าเป็นของใช้ของลูกสาวหรือไม่ ในส่วนของการค้นหา วันเดียวกันนี้ทีมนักประดาน้ำ ยังคงระดมค้นหาเพิ่มเติมในจุดที่ยังไม่ได้สำรวจ โดยแยกกับเป็น 5 ทีม กระจายออกไปพื้นที่ใกล้เคียงอ่าวโฉลกบ้านเก่า หมู่ 3 ต.เกาะเต่า นอกจากนี้ยังเพิ่มทีมค้นหาอีก 2 ทีมแยกค้นหาตามแนวชายหาดทั้งหมดอีก 1 ทีม และแยกค้นหาในพื้นที่ภูเขา และป่าอีก 1 ทีม ทั้งนี้ พล.ต.ต.อภิชาติ สั่งให้พนักงานสอบสวนในคดีเรียกตัวร้านอาหาร โรงแรม บริเวณใกล้เคียงโรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ทั้งหมด มาสอบปากคำอย่างละเอียดทั้งหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่มีการสอบปากคำอย่างละเอียดเท่าที่ควร นอกจากนี้อุปสรรคของการติดตามค้นหา เนื่องจากโรงแรมที่พักของ น.ส.วาเลนตินา ไม่มีการบันทึกประวัติของผู้เข้าพัก ทำให้ตำรวจไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครบ้างที่อยู่ในโรงแรมช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งตำรวจอาจจะประสานกับตำรวจ ตม.ให้ขอความร่วมมือกับโรงแรมขนาดเล็กทุกแห่ง หลังจากนี้ต้องทำประวัติผู้เข้าพักอย่างละเอียด กรณีเกิดเหตุจะได้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังสั่งให้ตำรวจเกาะพะงัน ช่วยกันตรวจสอบ เนื่องจากในวคืนวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะมีการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ หาก น.ส.วาเลนตินา เดินทางออกไปเที่ยวพื้นที่อื่น อาจจะย้อนกลับมาเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ได้ รวมทั้งให้ทุกสถานีตำรวจ ตรวจสอบตามโรงพยาบาลว่าพบนักท่องเที่ยวเข้าไปรับการรักษาตัวหรือไม่ ด้าน พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพถ่ายของ น.ส.วาเลนตินา ออกไปติดตามแหล่งชุมชน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่คอยสังเกตนักท่องเที่ยวที่มีหน้าตาคล้ายๆ กับ น.ส.วาเลนตินา โดยอาจจะเดินทางเข้ามาเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้บนเกาะพะงัน ซึ่งจะจัดขึ้นในคืนวันที่ 12 มี.ค.นี้ กรณีที่ยังไม่เสียชีวิต และอาจจะเดินทางออกไปเที่ยวในพื้นที่อื่น และอาจจะเดินทางมาร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้ดังกล่าว.

ขอบคุณ ภาพและข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Loading...